หมอเปรม แฉมีพรรคการเมืองเสนอผลประโยชน์ ดึงสว.อิสระเข้ามุ้ง รับถูกทาบจริง

[thanin]

หมอเปรม แฉมีพรรคการเมืองเสนอผลประโยชน์ ดึงสว.อิสระเข้ามุ้ง รับถูกทาบจริง
หมอเปรม โชว์ริสแบรนด์เป็นสว.สีขาว แฉมีพรรคการเมืองเสนอผลประโยชน์ ทำ สว.เปลี่ยนใจเข้ามุ้งเพิ่มอีกหลายคน ยอมรับมีคนทาบทามผ่านไลน์จริง เหน็บตัวเก็งปธ.วุฒิฯ ระวังจะเป็น 'ตัวเกร็ง'

เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 12 ก.ค.2567 ที่รัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาว่า กลุ่ม สว.ของตนมีชื่อว่า สว.สีขาว ไม่ใช่กลุ่มเดียวกับ นางนันทนา นันทวโรภาส สว. โดยกลุ่ม สว.สีขาวของตน เป็นสว.ที่มาจากทั่วประเทศ ยืนยันว่าไม่มีพรรคใด สีใด หรือใครบงการสนับสนุนทั้งสิ้น เรามาด้วยความรักในอุดมการณ์ เพื่อต่อสู้ทางการเมืองอย่างเป็นอิสระจริงๆ

เมื่อถามว่ากลุ่ม สว.สีขาว มีจุดยืนเหมือนกันอย่างไร นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า เราไม่จำกัดส่วนสูงและน้ำหนัก แต่จำกัดว่าต้องเข้ามาทำงานเพื่อประชาชน เน้นที่ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน บางคนอาจถูกปรามาสและด้อยค่า แต่ตนคิดว่า ทุกคนมีค่า สามารถทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ เราไม่ได้เน้นปริมาณ เพราะสส. 1 คนก็ทำให้สภาป่วนได้ อย่ามองว่าต้องมี สว.เป็นร้อยคน เพราะอาจทำงานให้สภาเดินหน้าไม่ได้ เนื่องจากไม่มีความร่วมมือของสมาชิก

ส่วน สว.สีขาวมีใครบ้างนั้น จะเปิดเผยในการประชุมที่จะมีการอภิปรายและลงมติ เพราะเป็นการร่วมกันทางอุดมการณ์ ไม่ใช่ร่วมกันเพื่อต่อรองตำแหน่ง หรือต่อรองผลประโยชน์ และการที่ สว.ทั้ง 200 คน มีกลุ่มก็อาจจะทำงานลำบาก แต่เป็นความจำเป็นของระบอบประชาธิปไตย ที่มีความเห็นต่าง เพียงแต่การเป็นกลุ่มนั้น อย่ามีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง หรือเงาทะมึนมาสั่งว่าจะต้องเอาองค์กรอิสระคนนี้ เอากฎหมายแบบนี้ เพราะถ้าสวนทางกับประชาชน ถึง สว.กลุ่มนั้นจะมีปริมาณเท่าไหร่ ก็อยู่ไม่ได้

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า เริ่มมีการทาบทาม สว.ให้ไปอยู่กลุ่มการเมือง Admauto99 ด้วยการเสนอเงินเดือน รถ หรือคนติดตามให้ นพ.เปรมศักดิ์ได้รับการทาบทามหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า มีคนไลน์และโทรศัพท์มาบอก แต่ตนตอบกลับไปว่า เงินตนมีเยอะแล้ว ไม่ต้องการเป็นลูกน้องใคร เพราะตนเป็นลูกน้องมาแล้ว 6 พรรค ซึ่งแต่ละพรรคมีกฎเหล็กข่มขืนใจสมาชิกกันทั้งนั้น เมื่อสมาชิกไม่ทำตาม ก็จะถูกขับออกจากพรรค หรือเป็นแกะดำ

ตนจึงคิดว่าน่าจะขจัดเงาทะมึน โดยการร่วมกันทำงานอย่างเป็นอิสระ ถ้ายังไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เอาริสแบนด์สีขาวไปสวมได้ ให้ค่อยๆ สลายเงาทะมึน ตอนนี้ มีคนมารับริสแบนด์ไป 10 กว่าคนแล้ว

"คนที่ไลน์มาหาผม มีข้อเสนอมาเยอะ แต่ไม่อยากระบุ และไม่ทราบว่าคนอื่นเห็นแล้วจะหวั่นไหวหรือไม่ แต่ทราบว่ามีการส่งคนมาดักตรงจุดรับใบรับรองที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จนบางคนเปลี่ยนใจจากการเป็นอิสระไปก็มี" นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ การเปลี่ยนใจไม่เป็นอิสระนั้น ต้องคิดให้ดี บางทีก็ไม่คุ้ม เพราะอยู่ 5 ปี เป็นอิสระ ทำงานอย่างมีศักดิ์ศรี น่าจะดีกว่า เพราะเงินและสิ่งของ ไม่ตายก็หาใหม่ได้ ส่วนรถที่เขาให้ ไม่รู้ว่าเป็นอัลพาร์ดหรือไม่ แต่น่าจะไม่ใช่สามล้อ และรถอัลพาร์ดของตนก็มี อย่าเอามาอ่อยเลย

ตนผ่านเรื่องนี้มาเยอะแล้ว การมีปลอกคออยู่ในค่าย เขาลงทุนเท่านี้ เขาคาดหวังเรายิ่งกว่านี้ จึงจำเป็นที่เราต้องประกาศออกไปว่าเราไม่มีสังกัด ซึ่งตนคิดว่าใน 5 ปี อาจมีวิกฤตบางอย่าง ทำให้สมาชิกเห็นว่าการเป็นอิสระดีกว่าการถูกจองจำหรือกักขังให้อยู่ในค่ายใดค่ายหนึ่ง

เมื่อถามว่าได้พูดคุยถึงการชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาบ้างหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า การช่วงชิง การแก่งแย่ง พวกเราไม่ประสงค์อย่างนั้น คิดว่าการมุ่งชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ไม่น่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของ สว.ชุดนี้ แต่ควรให้เป็นไปตามเวลาที่เหมาะสมดีกว่า ท่านใดที่เป็นตัวเก็ง ก็เป็นตัวเกร็งมาแล้วหลายคน ฉะนั้น อย่าไปเก็งมาก เดี๋ยวจะเกร็งซะก่อน

ต่อข้อถามว่าบุคคลที่จะเป็นประธานวุฒิสภา ควรมีลักษณะอย่างไร นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า อันดับแรกต้องสุขภาพดี ถ้าสุขภาพไม่ดี เดินยังต่อเท้าตัวเอง นั่งอยู่บนบัลลังก์ ได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้าง แล้วการประชุมจะมีคุณภาพได้อย่างไร บางคนเป็นแล้วสามวันดีสี่วันไข้ ต้องหามเข้าโรงพยาบาล เราอยากเห็นอย่างนั้นหรือ อยากเห็นประธานวุฒิสภาต้องเส้นเลือดฝอยในสมองแตกหรือ

"ที่บอกว่า โผเป็นคนนั้นคนนี้ ผมคิดว่าถ้าไม่ดีพอ อย่ามาเสี่ยง เพราะงานวุฒิสภา เป็นงานที่หนัก ใช้ความคิด ใช้เวลา รวมถึงความรู้ความสามารถ และแนวทางการทำงานด้วย บางทีอาจมองว่าเสียงข้างมากตัดสินได้ทุกปัญหา แต่ไม่ใช่มีเสียงข้างมาก แล้วจะไล่ทุบให้ได้ตามใจทุกอย่าง บางทีทุบไปอาจจะถูกบูมเมอแรงสะท้อนกลับก็ได้ ผมอยากเห็นประธานวุฒิสภา ที่เป็นกลาง ไม่สังกัดกลุ่มใด มาแบบอิสระ แบบสีขาวได้ยิ่งดี และต้องควบคุมการประชุมได้ หากไม่มีทักษะในการประชุม ประธานเจ๊งเอาง่ายๆ" นพ.เปรมศักดิ์กล่าว

เมื่อถามว่าคิดว่าคนที่เป็นประธานวุฒิสภาจะเข้ามาสลายกลุ่ม ในสว.ได้หรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าเขามาจากกลุ่ม เขาก็ไม่สลาย มีแต่จะเพิ่มปริมาณมากขึ้น ทุกวันนี้ยังได้ยินว่ามีการดูดเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งเกินพอดี แต่อย่าลืมว่าการที่มีอะไรมากเกินไป เช่น การรับประทานอาหาร กินมากไปก็ท้องแตก จึงคิดว่าให้มันพอดีๆ ดีกว่า ดังนั้น การเป็นประธานวุฒิสภาที่ดี ไม่มีกลุ่ม ไม่มีมุ้ง ดีที่สุด